Sunday, July 31, 2011

Malthusianism คตินิยมมัลทูเซียน

·       Malthusianism
·   คตินิยมมัลทูเซียน

ทฤษฎีที่มีสมมติฐานว่า ประชากรจะเพิ่มขึ้นในแบบเรขาคณิต( คือ 2, 4, 8, 16, 32….) แต่ปัจจัยการดำรงชีพเพิ่มขึ้นในแบบเลขคณิต (คือ 2, 4, 6, 8, 10….) คตินิยมมัลทูเซียนจึงได้บอกว่า เมื่อเป็นเช่นนี้เสียแล้วก็จึงเป็นไปไม่ได้ที่จะสามารถปรับปรุงมาตรฐานการครองชีพได้ และว่า อัตราส่วนระหว่างประชากรกับอาหารจะดำรงอยู่ได้ก็โดยเกิดการแทรกซ้อนต่างๆ ขึ้นมา คือ เกิดสงคราม โรคระบาด โรคภัยไข้เจ็บ ผู้สร้างคตินิยมมัลทูเซียนคือนักเศรษฐศาสตร์อังกฤษชื่อ โทมัส มัลทัส(Thomas Malthus)(1776-1834)และทฤษฎีนี้ได้เสื่อมความนิยมลงไปเมื่อตอนที่เกิดการปฏิวัติทางอุตสาหกรรมที่สามารถทำให้ประเทศต่างๆในยุโรปตะวันตกมีทั้งมาตรฐานการครองชีพที่สูงและมีประชากรเพิ่มขึ้นมามากในขณะเดียวกันนั้นด้วย

ความสำคัญ ในโลกปัจจุบันนี้คตินิยมมัลทูเซียนมักจะเรียกกันว่าคตินิยมมัลทูเซียนใหม่ (neo-Multhusianism) เพราะได้มีการนำเอาแนวความคิดเดิมมาประยุกต์ใช้กับสภาพแวดล้อมใหม่ การที่มีการนำเอาแนวความคิดนี้กลับมาใช้ใหม่เป็นการส่อแสดงให้เห็นถึงความวิตกกังวลเกี่ยวกับสัมพันธภาพที่เลวร้ายลงเรื่อยๆระหว่างประชากรกับอาหาร ในหมู่ประเทศอุตสาหกรรมนั้นมาตรฐานการครองชีพยังคงสูงอยู่ได้ต่อไป แต่ในหลายประเทศของกลุ่มที่กำลังพัฒนาซึ่งมีประชากรรวมกันเกือบจะเป็นทั้งหมดของประชากรโลกนั้น มาตรฐานการครองชีพได้แต่ทรงตัวอยู่ได้แค่นั้นเอง มีหลายประเทศที่เป็นผู้ส่งออกทางด้านอาหารแต่ก็ได้กลายเป็นผู้นำเข้าสินค้าอื่นๆในขณะเดียวกัน ผลก็คือเกิดเป็นช่องว่างระหว่างสังคมคนรวยกับสังคมคนจนที่ขยายถ่างกว้างออกไปมากยิ่งขึ้น พวกที่ยึดถือคตินิยมมัลทูเซียนใหม่ได้เตือนไว้ว่า หากประชากรที่เพิ่มขึ้นมามากมายนี้ยังไม่สามารถควบคุมได้ ทรัพยากรธรรมชาติก็จะถูกถลุงจนป่นปี้ไปหมด และผลิตภัณฑ์อาหารก็จะต้องเพิ่มขึ้นอยู่อย่างไม่หยุดไม่หย่อน เมื่อเป็นเช่นนี้อนาคตของมวลมนุษยชาติก็จะไม่แคล้วที่จะถึงความวิบัติดังที่มัลทัสได้ทำนายไว้แล้วนั้น

No comments:

Post a Comment